- โปรเจคตั้งต้นคือโปรเจคนี้
- กำหนดให้ส่งลิ้งค์คำตอบคือ github repository ที่เก็บโค้ดของคุณ
https://github.com/<your github name>/assessment
- MUST use go module
- MUST use PostgreSQL
- NEED to create table named
expenses
when start the application if not exist - MUST use go module
go mod init github.com/<your github name>/assessment
- MUST use go 1.18 or above
- api port MUST get from environment variable name
PORT
(should be able to config for api start from port:2565
) - database url MUST get from environment variable name
DATABASE_URL
- Expense tracking system
- ให้สร้างระบบ REST API เพื่อจัดเก็บประวัติการใช้จ่าย (expense) ของลูกค้าธนาคาร ซึ่งความสามารถระบบมีดังนี้
- ระบบสามารถจัดเก็บข้อมูล เรื่อง(title), ยอดค่าใช้จ่าย(amount), บันทึกย่อ(note) และ หมวดหมู่(tags)
- ระบบสามารถเพิ่มประวัติการใช้จ่ายใหม่ได้
- ระบบสามารถปรับเปลี่ยน/แก้ไข ข้อมูลของการใช้จ่ายได้
- ระบบสามารถดึงข้อมูลการใช้จ่ายทั้งหมดออกมาแสดงได้
- ระบบสามารถดึงข้อมูลการใช้จ่ายทีละรายการได้
* As a user, I want to add a new expense So that I can track my expenses
* ในฐานะผู้ใช้ ฉันต้องการเพิ่มประวัติการใช้จ่ายใหม่ เพื่อที่จะติดตามประวัติการใช้จ่ายของฉัน
- POST /expenses
- Request Body
{
"title": "strawberry smoothie",
"amount": 79,
"note": "night market promotion discount 10 bath",
"tags": ["food", "beverage"]
}
- Response Body
{
"id": "1",
"title": "strawberry smoothie",
"amount": 79,
"note": "night market promotion discount 10 bath",
"tags": ["food", "beverage"]
}
* As a user, I want to see my expense by using expense ID So that I can check my expense information
* ในฐานะผู้ใช้ ฉันต้องการดูข้อมูลประวัติการใช้จ่ายของฉันโดยใช้รหัสประวัติการใช้จ่าย เพื่อที่จะตรวจสอบข้อมูลประวัติการใช้จ่ายของฉัน
- GET /expenses/:id
- :id = 1
- Response Body
{
"id": "1",
"title": "strawberry smoothie",
"amount": 79,
"note": "night market promotion discount 10 bath",
"tags": ["food", "beverage"]
}
* As a user, I want to update my expense So that I can correct my expense information
* ในฐานะผู้ใช้ ฉันต้องการปรับปรุงข้อมูลประวัติการใช้จ่ายของฉัน เพื่อที่จะแก้ไขข้อมูลประวัติการใช้จ่ายของฉัน
- PUT /expenses/:id
- :id = 1
- Request Body
{
"title": "apple smoothie",
"amount": 89,
"note": "no discount",
"tags": ["beverage"]
}
- Response Body
{
"id": "1",
"title": "apple smoothie",
"amount": 89,
"note": "no discount",
"tags": ["beverage"]
}
* As a user, I want to see all my expenses So that I can check my expense information
* ในฐานะผู้ใช้ ฉันต้องการดูข้อมูลประวัติการใช้จ่ายทั้งหมดของฉัน เพื่อที่จะตรวจสอบข้อมูลประวัติการใช้จ่ายของฉัน
- GET /expenses
- Response Body
[
{
"id": "1",
"title": "apple smoothie",
"amount": 89,
"note": "no discount",
"tags": ["beverage"]
},
{
"id": "2",
"title": "iPhone 14 Pro Max 1TB",
"amount": 66900,
"note": "birthday gift from my love",
"tags": ["gadget"]
}
]
-
ใช้ภาษา Go สำหรับการพัฒนา
-
ใช้ PostgreSQL สำหรับเก็บข้อมูล
-
ใช้ go module สำหรับการจัดการ package
-
ใช้ go 1.18 ขึ้นไป
-
":2565" ใช้เป็น port ของ api server
-
ชื่อโปรเจคของคุณต้องเป็น assessment
-
ระบบต้องออกแบบตามมาตรฐาน REST API
- POST /expenses
- GET /expenses/:id
- PUT /expenses/:id
- GET /expenses
- ทำทีละ story โดยเริ่มจาก story แรกแล้วทำเรียงตามลำดับ
os.Getenv("PORT")
ใช้เพื่อรับค่า port จาก environment variableos.Getenv("DATABASE_URL")
ใช้เพื่อรับค่า database url จาก environment variable- เวลารัน
DATABASE_URL=postgres://... PORT=:2565 go run server.go
pq.Array(&tags)
is used to convert []string to postgres array- script to create table
CREATE TABLE IF NOT EXISTS expenses (
id SERIAL PRIMARY KEY,
title TEXT,
amount FLOAT,
note TEXT,
tags TEXT[]
);
- example data
{
"title": "buy a new phone",
"amount": 39000,
"note": "buy a new phone",
"tags": ["gadget", "shopping"]
}
- example response
{
"id": 1,
"title": "buy a new phone",
"amount": 39000,
"note": "buy a new phone",
"tags": ["gadget", "shopping"]
}
- Postman collection สำหรับทดสอบ API ทั้งหมดรันผ่าน
- หลังจาก import postman collection แล้ว อย่าลืมสร้าง postman environment สำหรับเก็บค่าตัวแปรเวลารัน Postman
- กรณี success ต้อง response status code ให้เหมาะสม เช่น
- 201 StatusCreated
- 200 StatusOK
- กรณี error ต่างๆ ให้ระบบ response status code ตามความเหมาะสม เช่น
- 400 StatusBadRequst
- 500 StatusInternalServerError
- API server ควรจะรองรับ Graceful shutdown
- โปรเจคควรรองรับการ build ด้วย docker โดยใช้ multi-stage build เพื่อสะดวกต่อการ deploy
- มีการเขียน unit test, integration test
- สำหรับ integration test สามารถเทคนิค docker-compose testing sandbox ที่เรียนในรายวิชา devops สำหรับรัน postgres ได้เพื่อการทดสอบ
- ซอร์สโค้ดควรจัดรูปแบบด้วย gofmt
- ใช้ความรู้ทุกอย่างที่เรียนมาพร้อมด้วยสิ่งที่ศึกษาเพิ่มเติมเอง
- แต่ละ story ควรใช้ branch ของตัวเองแล้ว merge กลับไปที่ main ด้วย 3-way merge